ถังดักไขมันคืออะไร วิธีการทำงานและประโยชน์ในการใช้งาน

ในครัวเรือนทุกหลัง การประกอบอาหารย่อมมีเศษอาหาร น้ำมัน และไขมัน ไหลผ่านท่อระบายน้ำ ก่อให้เกิดปัญหามากมาย ทั้งการอุดตัน ส่งกลิ่นเหม็น และสร้างปัญหาต่อระบบบำบัดน้ำเสีย ถังดักไขมัน เปรียบเสมือนด่านแรกในการจัดการกับปัญหานี้ ทำหน้าที่ดักจับเศษอาหาร น้ำมัน และไขมัน ก่อนไหลลงสู่ท่อระบายน้ำสาธารณะ ช่วยป้องกันปัญหาท่ออุดตัน ลดกลิ่นเหม็น และรักษาสิ่งแวดล้อม

ถังดักไขมันหรือ grease trap เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญสำหรับการจัดการน้ำเสียที่มีไขมันและน้ำมันปนเปื้อนอยู่ในระบบบำบัดน้ำเสีย โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงร้านอาหารและครัวเรือนที่มีการใช้ไขมันและน้ำมันในการปรุงอาหาร ในบทความนี้ บริษัท ไฮ คอนโทรล จำกัด จะพาท่านรู้จักกับถังดักไขมัน วิธีการทำงาน และประโยชน์ในการใช้งานอย่างละเอียด

ประเภทของถังดักไขมัน

1. ถังดักไขมันแบบฝังดิน: เหมาะสำหรับบ้านที่มีพื้นที่เพียงพอ ติดตั้งโดยการฝังถังดักไขมันใต้ดิน
2. ถังดักไขมันแบบตั้งพื้น: เหมาะสำหรับบ้านที่มีพื้นที่จำกัด ติดตั้งโดยวางถังดักไขมันไว้บนพื้น

องค์ประกอบหลักของถังดักไขมัน

1. ถังเก็บน้ำเสีย: ทำหน้าที่เก็บกักน้ำเสียก่อนผ่านเข้าสู่กระบวนการดักจับไขมัน
2. ช่องแยกไขมัน: เป็นช่องที่ไขมันและน้ำมันลอยตัวขึ้นมา
3. ช่องระบายน้ำ: เป็นช่องที่น้ำเสียที่ผ่านกระบวนการดักจับไขมันแล้ว ไหลลงสู่ท่อระบายน้ำสาธารณะ
4. ฝาปิดถัง: ป้องกันกลิ่นเหม็นและสิ่งสกปรก

วิธีการทำงานของถังดักไขมัน

• การแยกของแข็ง: น้ำเสียที่มีไขมันและน้ำมันจะถูกนำเข้าสู่ถังดักไขมัน โดยในขั้นแรกของแข็งที่มีขนาดใหญ่จะตกลงไปที่ก้นถัง ซึ่งจะช่วยลดปัญหาการอุดตันของท่อระบายน้ำ
• การแยกไขมันและน้ำมัน: ไขมันและน้ำมันจะมีความหนาแน่นน้อยกว่าน้ำ ทำให้ลอยอยู่บนผิวน้ำ ถังดักไขมันจะมีพื้นที่สำหรับไขมันและน้ำมันลอยขึ้นไปที่ด้านบนของถัง ในขณะที่น้ำที่ผ่านการแยกไขมันแล้วจะถูกระบายออกจากถังไปยังระบบบำบัดน้ำเสียต่อไป
• การบำรุงรักษา: ไขมันและน้ำมันที่สะสมอยู่ในถังดักไขมันจะต้องถูกกำจัดออกเป็นประจำ เพื่อป้องกันการอุดตันและรักษาประสิทธิภาพของถังดักไขมัน

ประโยชน์ในการใช้งานของถังดักไขมัน

1. ลดปัญหาการอุดตันในท่อระบายน้ำ: การใช้ถังดักไขมันช่วยลดปัญหาการอุดตันในท่อระบายน้ำ เนื่องจากไขมันและน้ำมันที่ปนเปื้อนในน้ำเสียจะถูกแยกออกก่อนที่จะเข้าสู่ระบบท่อระบายน้ำ
2. ป้องกันการเสียหายของระบบบำบัดน้ำเสีย: การใช้ถังดักไขมันช่วยป้องกันการเสียหายของระบบบำบัดน้ำเสีย เนื่องจากไขมันและน้ำมันที่สะสมอยู่ในระบบบำบัดน้ำเสียอาจทำให้เกิดการอุดตันและลดประสิทธิภาพของระบบ
3. ลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา: การใช้ถังดักไขมันช่วยลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาระบบท่อระบายน้ำและระบบบำบัดน้ำเสีย เนื่องจากลดปัญหาการอุดตันและความเสียหายที่เกิดจากไขมันและน้ำมัน
4. ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม: การใช้ถังดักไขมันช่วยลดการปล่อยไขมันและน้ำมันลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ ซึ่งช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
5. เพิ่มประสิทธิภาพในการบำบัดน้ำเสีย: การใช้ถังดักไขมันช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบำบัดน้ำเสีย เนื่องจากน้ำเสียที่ผ่านการแยกไขมันและน้ำมันแล้วจะมีคุณภาพที่ดีขึ้นและสามารถบำบัดได้ง่ายขึ้น

การดูแลรักษาถังดักไขมัน

• ความถี่: อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง หรือ บ่อยกว่านั้น ขึ้นอยู่กับปริมาณการใช้งาน
• วิธีทำความสะอาด:
  • ตักไขมันและเศษอาหารที่ลอยอยู่ด้านบนออก
  • ควักตะกอนไขมันที่เกาะตัวตามผนังถัง
  • ล้างถังด้วยน้ำสะอาด
  • เทน้ำยาล้างจานผสมน้ำลงในถัง ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที
  • ล้างถังด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง
• ตรวจสอบสภาพถังดักไขมัน:
  • ตรวจสอบรอยรั่วหรือรอยแตกร้าวของถัง
  • ตรวจสอบสภาพของฝาปิดถัง
• เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เหมาะสม:
  • หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาล้างห้องน้ำที่มีฤทธิ์กัดกร่อนสูง
  • เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
• ไม่ควรเทน้ำร้อนลงในถังดักไขมัน:
  • น้ำร้อนอาจทำให้ไขมันละลาย ไหลลงสู่ท่อระบายน้ำ
• ปรับปรุงพฤติกรรมการใช้งาน:
  • เทเศษอาหารลงถังขยะ ไม่ควรเทลงท่อระบายน้ำ
  • หลีกเลี่ยงการเทน้ำมันหรือน้ำซุปลงท่อระบายน้ำโดยตรง
  • ติดตั้งตะแกรงดักเศษอาหารบนท่อระบายน้ำ
• จดบันทึกรายละเอียดการทำความสะอาด:
  • จดบันทึกลงวันที่ ปริมาณไขมันที่ดักจับได้ และหมายเหตุอื่นๆ

การดูแลรักษาถังดักไขมันเป็นประจำ:

• ช่วยให้ถังดักไขมันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• ป้องกันปัญหาท่ออุดตัน
• ลดกลิ่นเหม็น
• รักษาสิ่งแวดล้อม

สรุป

ถังดักไขมันเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญสำหรับการจัดการน้ำเสียที่มีไขมันและน้ำมัน การใช้ถังดักไขมันช่วยลดปัญหาการอุดตันในท่อระบายน้ำ ป้องกันการเสียหายของระบบบำบัดน้ำเสีย ลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา และช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม การบำรุงรักษาถังดักไขมันเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ถังดักไขมันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ